ศุนย์บริการ

ตัวแทนจำหน่าย ศูนย์ซ่อม และ บริการ : เครื่องเสียงกลางแจ้ง ตู้ลำโพงPA โทรโข่ง ไมโครโฟน ไมโครโฟนไร้สาย ไมค์ลอย ลำโพงฮอร์นศูนย์รวมอุปกรณ์ เซตระบบ เครื่องเสียงกลางแจ้ง Power Mixer ลําโพงคาราโอเกะ ลำโพงห้องประชุม ชุดประชุม และ เสียงตามสาย

ศูนย์จำหน่าย ขายอุปกรณ์ เครื่องเสียง เครื่องเสียงกลางแจ้ง ราคาเครื่องเสียง เครื่องเสียงห้องประชุม Power amp speaker เครื่องเสียงบ้าน ราคาเครื่องเสียงกลางแจ้ง ราคาลำโพง ตู้ลำโพงแขวนผนัง หลายๆ ยี่ห้อ ตู้ลำโพงกลางแจ้ง เครื่องเสียง PA เครื่องเสียง ตู้ลําโพง กลางแจ้ง ห้องประชุม Mixer มิกเซอร์Power Mixer เพาเวอร์มิกเซอร์ Mixer มิกเซอร์ แบบอนาลอก มิกเซอร์แบบดิจิตอล ขายลำโพง ตู้ลำโพง ลำโพง PA ตู้ลำโพง พกพา Portable PA เครื่องเสียงพกพา เครื่องขยายเสียง ตู้ลำโพงพร้อมเครื่องขยายเสียง โทรโข่ง ไมโครโฟน ไมโครโฟนไร้สาย ไมค์ลอย ลำโพงฮอร์น ศูนย์รวมอุปกรณ์ ระบบเสียงกลางแจ้ง ระบบ เครื่องเสียงกลางแจ้ง PA Mixer เครื่องเล่นคาราโอเกะ ลำโพงห้องประชุม ชุดประชุม อีกทั้งยังเป็น ตัวแทนจำหน่ายเครื่องเสียง หลากหลายยี่ห้อ อีกทั้งยังมีบริการ รับออกแบบ ติดตั้งระบบเสียง ร้านเครื่องเสียง ศูนย์รวมเครื่องเสียงคุณภาพสูง ตัวแทนจำหน่ายเครื่องเสียงนำเข้า เครื่องเสียงกลางแจ้ง ตู้ลําโพง กลางแจ้ง ปรับแต่ง เครื่องเสียง ติดตั้งเครื่องเสียงห้องประชุม ติดตั้งเครื่องเสียง เครื่องเสียงในสำนักงาน ห้องประชุม เครื่องเสียงในห้องประชุม Conference Systems ระบบประกาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า งานประมูล งานราชการ เครื่องเสียงระบบประกาศ ระบบประกาศ ระบบเสียงตามสาย เครื่องเสียง pa เครื่องเสียงกลางแจ้ง ชุดเคลื่อนย้ายแบบต่างๆ ติดต่อทางเราได้ทีนี่

ประดิษฐ์เจริญ เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส 084-342-9222,097-042-9448




วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิธีการเลือกซื้อไมโครโฟน

คุณจะนำไมโครโฟนไปใช้ทำอะไรครับ ? ขยายเสียง บันทึกเสียง สัมภาษณ์ ร้องเพลง อัดรายการ หรือ อัดเสียงแบบมืออาชีพ
ไมโครโฟนมีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ดังนั้นเพื่อให้คุณซื้อไมโครโฟนได้ถูกใจ และตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด ไม่ให้
คุณต้องเสียเงิน เสียเวลา เสียของโดยใช่เหตุ ก่อนซื้อไมโครโฟนลองศึกษาข้อมูลพื้นฐานกันก่อนดีกว่าครับ

ในเรื่องของไมโครโฟนจะมีสองส่วนใหญ่ ส่วนแรกคือวิธีเลือก(choosing) กับวิธีวาง(placing)
ซึ่ง ทั้งสองส่วนมีความสำคัญมากไม่แพ้กันครับ ถ้าเข้าใจสองส่วนนี้แล้วก็สามารถพูดได้เลยว่าทำงานบันทึกเสียงโดยใช้ ไมโครโฟนได้อย่างมีชั้นเชิง

ในตอนนี้เราจะมาว่ากันถึงส่วนแรกก่อนคือวิธีเลือก (choosing)
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับไมโครโฟนซักนิดก่อนครับ

ไมโครโฟน เป็นอุปกรณ์บันทึกเสียงชนิดหนึ่งที่ไม่ได้ทำให้เสียงดังขึ้น ขอย้ำว่าไม่ได้ทำให้เสียงดังขึ้น พอพูดถึงเรื่องนี้หลายคนเริ่มสงสัยว่าทำไมพูดอย่างนั้น คือลองดูที่ชื่อของมันสิครับ Microphone (Micro แปลว่าเล็ก Phone แปลว่าเสียง Microphone น่าจะแปลว่าเสียงเล็กๆถ้าแปลแบบกำปั้นทุบดินไม่เห็นมีการพูดถึงการขยายเสียง เลย)

การทำงานของไมโครโฟนตัวมันก็ไม่มี แอมปลิฟลายน์ในตัวซักหน่อย ที่จะมาขยายเสียงได้ คราวนี้ให้ลองสังเกตดูที่สายที่ต่อออกจากไมโครโฟนมันจะเป็นสายเคเบิลที่ทำ ด้วยทองแดง ลองถามตัวเองดูเล่นๆนะครับว่าเสียงสามารถอยู่ในทองแดงแล้ววิ่งไปมาได้หรือ คำตอบคือเสียงไม่สามารถอยู่ในทองแดง แล้ววิ่งไปมาตามที่เราต้องการได้ครับ แต่นี่ละครับเป็นหน้าที่ของเจ้าไมโครโฟนที่จะทำให้เสียงวิ่งอยู่ในลวดทองแดง ได้ เพราะสิ่งที่จะวิ่งอยู่ในลวดทองแดงหรือพวกสายเคเบิลได้คือไฟฟ้าครับ ซึ่งเจ้าไมโครโฟนจะเปลี่ยนสัญญาณเสียงที่มันได้รับเป็นสัญญาณไฟฟ้า พอเสียงกลายเป็นสัญญาณไฟฟ้าก็วิ่งไปมาในระบบได้เต็มที่เลยครับและสุดท้าย สิ่งที่จะเปลี่ยนไฟฟ้ากลับมาเป็น เสียงอีกครั้งเพื่อให้เราได้ยินก็คือลำโพงนั่นเองเพราะฉะนั้นไมโครโฟนกับ ลำโพงส่วนประกอบของมันจริงๆแล้วหลักการก็คล้ายกันมากเพียงแต่ต่อมันกลับหัว กลับหางเท่านั้นเอง

ดังนั้นถ้าเราเอาไมโครโฟนมาตัวหนึ่งแล้วลองพูด ดูถ้าเป็น Dynamic Microphone (ไมโครโฟนที่ทำงานโดยไม่ต้องใช้ไฟ) มันจะมีไฟออกมาทางก้นไมโครโฟนทันทีแต่ไม่ต้องกลัวถูกไฟดูดหรอกครับเพราะขนาด ไฟที่ออกมามีขนาดน้อยมากๆไม่มีทางดูดใครได้

บางท่านอาจจะแย้งว่าเคยถูกไมโครโฟนดูดเป็นประจำเวลาเอาปากไปร้องใกล้ๆ


อัน นั้นไม่ใช่ไฟที่ออกมาจากไมโครโฟรครับมันมักจะเป็นไฟที่รั่วมาจากอุปกรณ์ ตัวอื่นๆมากว่า เช่น พวกพาวเวอร์แอมป์เป็นต้น สัญญาณที่ได้จากไมโครโฟนนั้นยังไม่พร้อมที่จะนำไปบันทึกเสียงหรือออกกระจาย เสียงครับเนื่องจากสัญญาณมันเบามาก ต้องมีตัวขยายเสียงอีกทีหนึ่งไอ้เจ้าตัวที่มาขยายสัญญาณจากไมโครโฟนก็คือ ปรีไมโครโฟน ( Pre Microphone Amplifier ) เมื่อสัญญาณที่ได้จากไมโครโฟนถูกขยายแล้วก็สามารถลงไปซาวด์การ์ดได้เลยหรือ พูดง่ายๆคืออัดได้เลยครับ

ปรีไมโครโฟนนี้มีหลายที่ครับ ซาวด์การ์ดบางรุ่นก็มี (ช่องที่ให้เสียบไมค์นั่นละครับคือปรีไมค์) มิกซ์เซอร์ก็มีครับแต่ถ้าจะให้คุณภาพดีที่สุดควรจะเป็นปรีไมค์ที่เป็นแร็ค อยู่ด้านนอกครับคุณภาพก็ตามราคา




หลังจากที่พูดถึงการ ทำงานของไมโครโฟนเบื้องต้นมาพอสมควรแล้วผมขออนุญาติ แบ่งไมโครโฟนออกเป็น 2 ประเภทเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจแล้วกันนะครับ

1.Dynamic Microphone
เป็น ไมโครโฟนที่ไม่ต้องใช้ไฟคือตัวมันเสียบเข้าปรีไมค์แล้ว Boost เสียงก็ดังทันทีเลย ธรรมชาติของไมโครโฟนประเภทนี้มักจะไม่ค่อยไว เหมาะสำหรับจับเสียงตู้แอมป์กีตาร์ แอมป์เบส เสียงกระเดื่อง กลองทอม ไม่นิยมที่จะใช้จับ Ambient (บรรยากาศห้อง) , เสียงร้อง , เสียงกีตาร์อคูสติคหรือเครื่องอคูสติค ทั้งหลายเนื่องจากไม่ไวพอ ยกเว้นเครื่องเป่าบางขนิดที่เสียงดัง เช่น แซ็คโซโฟน , ทรัมเป็ต ส่วนพวกฉาบและไฮแฮท (เครื่องทองเหลือง) ไม่นิยมจับด้วย Dynamic Microphone เนื่องจากไมโครโฟนกลุ่มนี้ไม่ค่อยตอบสนองย่านความถึ่ช่วงสูงได้ดีนัก


2.Condenser Microphone
อัน นี้เป็นไมโครโฟนที่ต้องใช้ไฟครับ แต่มันจะใช้ไฟเพียงแค่ 48 volt เราจะเรียกว่า Phantom (หรือใช้สัญลักษณ์ +48V) ซึ่งหากจะใช้ไมโครโฟนประเภทนี้ต้องมี ไอ้เจ้าไฟ +48 V ด้วยครับ ซึ่งไมโครโฟนที่ใช้ไฟพวกนี้จะมีความไวสูงมากครับคือเสียงเบาๆมันก็รับไปหมด ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียครับ คือ มันจะให้รายละเอียดที่มากและยังสามารถรับความถี่สูงได้ดีอีกด้วย สามารถเอามาจับบรรยากาศห้องก็ได้เพราะมันไวพอ หรือจะเอามาจับเครื่องอคูสติกก็เยี่ยมครับ แต่ข้อควรระวังก็มีครับคือเนื่องจากความไวของมันนั่นเองทำให้ไม่เหมาะที่จะ นำไปใช้กับสถานที่ที่มีเสียงรบกวนสูง และไม่สามารถที่จะนำไปวางใกล้ๆกับอุปกรณ์ดนตรีที่มีเสียงดังมากๆได้ เช่นพวกตู้แอมป์ต่างๆ (แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่สามารถจับตู้กีตาร์ได้นะครับเพียงแต่ต้องระวัง เป็นอย่างมากและต้องรู้เทคนิคเล็กน้อย)

หลังจากที่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดของไมโครโฟนแล้วมีอีกเรื่องที่สำคัญ มากๆต่อการเลือกใช้ไมโครโฟน คือ ขนาดของ Diaphragm (คือ ขนาดของแผ่นรับเสียงที่ไมโครโฟน ต้องขออภัยครับที่ไม่สามารถแปลคำว่า Diaphragm เป็นภาษาไทยได้เพราะไม่ทราบจริงๆว่ามันแปลเป็นไทยว่าอะไรถ้าท่านใดทราบก็ เมลล์มาบอกกันได้นะครับ) ไมโครโฟนที่ Diaphragm ใหญ่ (Large Diaphragm) จะตอบสนองต่อความถี่ต่ำได้ดีกว่า ไมโครโฟนที่ Diaphragm เล็ก (Small Diaphragm) ส่วนความถี่สูง Diaphragm เล็กจะตอบสนองได้ชัดเจนกว่าแต่ Diaphragm ใหญ่ก็ตอบสนองได้ครับ แต่เนื่องจาก Diaphragm ใหญ่จะให้ความถี่ต่ำด้วยบางครั้งเลยทำให้ดูเหมือนว่ามันตอบสนองความถี่สูง ได้ไม่ชัดเจนเท่า Diaphragm เล็ก สรุปว่าสำหรับความถี่ต่ำ สมควรถูกจับด้วย Diaphragm ใหญ่เท่านั้น ส่วน ความถี่สูงจะจับด้วย Diaphragm เล็กก็ได้ใหญ่ก็ได้แต่จะได้สำเนียงต่างกัน

ขอสรุปการเลือกใช้ ไมโครโฟนตามมาตรฐานตามขนิดเครื่องดนตรีเพื่อเป็นแนวทางการเลือกซื้อเลือกใช้ (ไมโครโฟนที่ยกเป็นตัวอย่างเป็นไมโครโฟนที่ทั่วโลกนิยมใช้กัน บางตัวราคาอาจสูงมากลองเอาชื่อไมโครโฟนเหล่านี้ไป Search ดูเล่นก็ได้ครับจะเห็นรายละเอียดอีกมากมาย)

- LEISE ควรจับด้วย Dynamic Microphone รุ่นที่นิยมได้สุดที่รัก LEISE - TS-988  ,  LX-98II
- Bass Drum ควรจับด้วย Large Diaphragm Dynamic Microphaone รุ่นที่นิยมได้สุดที่รัก AKG D112 , Electrovoice RE20 , Shure
- Snare ควรจับด้วย Dynamic Microphone รุ่นที่นิยมได้สุดที่รัก Shure SM57
- Tom ควรจับด้วย Large Diaphragm Dynamic Microphone รุ่นที่นิยมได้สุดที่รัก Sennheizer MD421 (สำหรับ Tom ใบเล็กบางท่านอาจนิยมจับด้วย Shure SM57 สำหรับ Floor Tom บางท่านอาจนิยมจับด้วย Electrovoice RE 20)
- Hihat ควรจับด้วย Condensor Microphone รุ่นที่นิยมได้สุดที่รัก AKG 414 , AKG 451 , Neumann KM 184
- Overhead ควรจับด้วย Condensor Microphone รุ่นที่นิยมได้สุดที่รัก Neumann U 87 , Neumann KM 184 , AKG 451
- Amp Bass ควรจับด้วย Large Diaphragm Microphone จะเป็น Dynamic หรือ Condensor ก็ได้ แต่ถ้าเป็น Condensor ควรจะวางห่างออกมาซักประมาณ 1 ฟุต รุ่นที่นิยมได้สุดที่รัก Electrovoice RE 20 , AKG D112 , Neumann U 87 , AKG C12

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น